เจสซี่ ลินการ์ด ยอมเซ็นกับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์

เจสซี่ ลินการ์ด ยอมเซ็นกับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เพื่อโอกาสในการไปเล่นฟุตบอลโลก

เจสซี่ ลินการ์ด ได้หันหลังให้กับสโมสรเก่าของเขาอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่เขาไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับทีม โดยเขาได้รับโอกาสลงสนามไปเพียงแค่ 356 นาทีให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้ทางด้านของนักเตะหนุ่มกองกลางทีมชาติอังกฤษวัย 29 ปีได้มีการเซ็นสัญญากับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ สโมสรที่จะเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022/23 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เกมแรกของ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ใน พรีเมียร์ลีก จะทำการแข่งขันในวันที่ 6 สิงหาคม โดยจะเป็นเกมเยือนที่พบกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สำหรับในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะครั้งนี้ ฟอเรสต์ ลงทุนไปแล้วประมาณ 70 ล้านปอนด์ (84 ล้านดอลลาร์) ในการซื้อนักเตะหน้าใหม่เข้ามาในทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ รวมถึงเซ็นสัญญากับนักเตะที่ทำลายสถิติการซื้อของทีมด้วยการเซ็นสัญญากับ ไตโว อโวนิยี นักเตะหองหน้าจาก ยูเนี่ยน เบอร์ลิน ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ และเซ็นสัญญากับ แฮร์รี่ ทอฟโฟโล ที่ย้ายมาจากทีมคู่ต่อสู้เพลย์ออฟอย่าง ฮัดเดอร์ฟิลด์ ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์

สำหรับการเซ็นสัญญากับ เจสซี่ ลินการ์ด ในฐานะฟรีเอเยนต์ก็ถือเป็นการเซ็นสัญญาครั้งใหญ่ของ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เหมือนกัน พวกเขาต้องแย่งชิงตัวนักเตะหนุ่มรายนี้จาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสโมสรที่ ลินการ์ด เคยร่วมงานมาด้วยแล้ว แต่สาเหตุที่ เจสซี่ ลินการ์ด เลือกที่จะเซ็นสัญญากับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ น่าจะมาจากโอกาสในการลงเล่นเป็นตัวจริงที่เขาน่าจะมีโอกาสมากกว่า และนั่นหมายถึงโอกาสในการติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึกฟุตบอลโลกที่กาตาร์ด้วย เช่นเดียวกันกับ ดีน เฮนเดอร์สัน ที่ย้ายมาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงและโอกาสในการติดทีมชาติ